นิสสัน ส่งมอบ เทอร์ร่าใหม่ คันแรกถึงมือลูกค้า
นาย อันตวน บาร์เตส ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย (ที่สองจากซ้าย) พร้อมด้วยนาย ทาเคชิ อิชิอิ (ซ้ายสุด) รองประธานฝ่ายการจัดซื้อ ส่งมอบนิสสัน เทอร์ร่าใหม่ให้แก่ นาย สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ (ที่สองจากขวา) รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยซัมมิท โอโต พาร์ท อินดัสตรี จำกัด พร้อมด้วย ดร.ฉัตรแก้ว ฮาตระวัง (ขวาสุด) ผู้อำนวยการฝ่ายโรงงาน ไทยซัมมิท ออโต้พาร์ท จำกัด

กรุงเทพฯ (31 ตุลาคม 2561) เมื่อเร็วๆ นี้ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย ส่งมอบเทอร์ร่า ใหม่ รถยนต์อเนกประสงค์พรีเมี่ยม แบบตัวถังบนแชสซีส ให้แก่ นาย สกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ รองประธานกรรมการ บริษัท ไทยซัมมิท โอโต พาร์ท อินดัสตรี จำกัด ซึ่งถือว่าเป็นลูกค้ารายแรก

นาย สกุลธร เผยถึงความประทับใจที่ต่อเทคโนโลยี นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ที่บรรจุอยู่ในรถยนต์เทอร์ร่า ใหม่ ตั้งแต่เทคโนโลยีกระจกมองหลังอัจฉริยะ หรือ Intelligent Rear View Mirror (IRVM) เทคโนโลยีกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (IAVM)  ที่มาพร้อม เทคโนโลยีตรวจจับ และส่งสัญญาณเตือนวัตถุ และบุคคลที่เคลื่อนไหวจากกล้องรอบคัน หรือ Moving Object Detection (MOD) รวมไปถึงระบบขับขี่อัฉริยะแบบ 4 ล้อ โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะช่วยการขับขี่บนทุกสภาพถนนราบรื่น นอกจากนี้ยังมี ระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW) และระบบเตือนจุดอับสายตา Blind Spot Warning (BSW) ที่ช่วยสร้างความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอดการเดินทาง “ผมรอที่จะได้ขับ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่นี้บนเส้นทางออฟโรดที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันล้ำสมัย และระบบการงานที่ดีเยี่ยมและในฐานะที่ทำธุรกิจร่วมกับนิสสันมาเป็นเวลานาน ผมเชื่อมั่นในคุณภาพของรถยนต์รุ่นนี้ เพราะรถยนต์รุ่นนี้ผลิตขึ้นในประเทศ”

เทอร์ร่า ใหม่ มีให้เลือก 3 รุ่นย่อย และมี 5 สีให้เลือก ได้แก่ สีน้ำตาล เอิร์ธ บราวน์, สีดำ แบล็คสตาร์, สีขาว ไวท์เพิร์ล, สีเงิน บริลเลียนท์ ซิลเสอร์ และ สีเทา ทไวไลท์ เกรย์ โดยราคาสำหรับช่วงแนะนำ จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2561 เริ่มต้นที่ 1,316,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 V 2WD 7AT 1,349,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 VL 2WD 7AT และ 1,427,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 VL 4WD 7AT  โดยลูกค้าที่สนใจสามารถเข้าชมได้ ณ ศูนย์ผู้จัดจำหน่ายรถยนต์นิสสัน หรือติดต่อ นิสสัน call center ที่ 02 401 9600 หรือ เว็บไซด์ http://www.nissan.co.th.

 

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด

นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์  นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ  เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่   สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง   มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 190 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น  ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์  รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน  รถกระบะ และรถตู้  

 

เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด

นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.OV.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559  ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.6 ล้านคันในปี 2560

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube