นิสสันแสดงความเป็นผู้นำด้านรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในงาน “อีวี เดย์”
ด้วยแนวคิดของ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ พร้อมสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ภายใต้นโยบายประเทศไทย 4.0
กรุงเทพฯ – นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย เดินหน้าเผยแพร่ความรู้ด้านยานยนต์ไฟฟ้า ให้แก่ประชาชนและสถาบันการศึกษา รวมถึงผู้ประกอบการขนาดกลาง และขนาดย่อม (SMEs)
งานสัมมนาวิชาการ “อีวี เดย์” จัดขึ้นโดยสถาบันยานยนต์และกระทรวงอุตสาหกรรม ณ ไบเทค บางนา เพื่อแบ่งปันความรู้ และยกระดับความสามารถในอุตสาหกรรมยานยนต์ของผู้ประกอบการไทย
นาย โทโมฮิโก เยา รองประธาน ฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าวว่า “นิสสันร่วมมือกับภาครัฐ และหน่วยงานต่างๆ เพื่องานสัมนาวิชาการ อีวี เดย์ และต่อยอดความร่วมมือภายใต้โครงการ "บิ๊ก บราเธอร์ - พี่ใหญ่ช่วยน้อง” โดยกระทรวงอุตสาหกรรม อันเป็นการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยภายใต้นโยบายประเทศไทยยุค 4.0 ซึ่งโครงการนี้ นิสสัน เป็นพี่เลี้ยงที่จะแบ่งปันความรู้ในเรื่องเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าที่นิสสันมีมากว่า 70 ปีให้กับกลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วน เพื่อช่วยเพิ่มศักยภาพ และสนับสนุนการเติบโตของภาคธุรกิจแบบ SMEs ในท้องถิ่นให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน”
ในงานนี้นิสสันได้จัดแสดง นิสสัน ลีฟ ใหม่ ยานยนต์ไร้มลพิษ ยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก พร้อมด้วยการให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจในเรื่องเทคโนโลยีการขับขี่ อย่าง e-Pedal ที่จะช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมรถด้วยคันเร่งเพียงอย่างเดียว ทั้งการเร่งความเร็ว การชะลอความเร็ว ตลอดจนถึงการจอดแบบหยุดนึ่งอย่างสมบูรณ์แม้อยู่บนเนินเขา นิสสัน ลีฟ ใหม่ เป็นตัวแทนของเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในอนาคตของนิสสัน หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ และเป็นวิสัยทัศน์ของนิสสันเพื่อให้ทุกคนก้าวไปสู่โลกที่ดีขึ้นจากการขับขี่ที่ปลอดภัย และยั่งยืน
นิสสัน ลีฟ ใหม่ ได้รับรางวัลมากมายจากเทคโนโลยีทันสมัย รวมถึงการจัดอันดับความปลอดภัยในระดับ 5 ดาว จากสถาบันทดสอบความปลอดภัยรถยนต์ของยุโรป (European New Car Assessment - Euro NCAP) และสถาบันทดสอบคุณภาพความปลอดภัยของยานยนต์แห่งประเทศญี่ปุ่น(Japan New Car Assessment Program - JNCAP) โดยนิสสันมีเป้าหมายที่จะนำ ลีฟมาสู่ภูมิภาคต่างๆ ในปีงบประมาณนี้ และทำการขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกให้ได้ 1 ล้านคัน ภายในปีงบประมาณ 2022 หรือ พ.ศ. 2565
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 190 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.OV.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.6 ล้านคันในปี 2560
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube