นิสสัน สานต่อ โครงการ "แค่ใจก็เพียงพอ" ปลุกชุมชนนำขยะกลับมาใช้ใหม่
ส่งเสริมทักษะ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนในจังหวัดเพชรบุรีอย่างยั่งยืน
กรุงเทพ, ประเทศไทย (14 ธันวาคม 2561) – นิสสัน ประเทศไทย เปิดตัวกิจกรรมปีที่สองของโครงการ "แค่ใจก็เพียงพอ" มุ่งเน้นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้กับชุมชนในจังหวัดเพชรบุรี
นิสสัน เริ่มดำเนินโครงการ "แค่ใจก็เพียงพอ ตามพ่อที่พอเพียง" ในปี พ. ศ. 2560 เป็นปีแรก โดยเฟ้นหาบุคคลต้นแบบจำนวน 10 คนที่น้อมนำคำสอนแนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร-มหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงครองราชย์มายาวนานมาปรับเปลี่ยนการทำงาน และชีวิตประจำวัน ผู้เข้าร่วมโครงการได้เข้าเยี่ยมชมโครงการของบุคคลต้นแบบที่ประสบความสำเร็จ 10 โครงการ ตามรอยเท้าของในหลวง รัชกาลที่ 9 เป็นระยะทางทั่วประเทศกว่า 1,500 กิโลเมตร
"พวกเราชาวนิสสัน รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมากที่ได้สานต่อโครงการนี้ในปีที่สอง ภายใต้โครงการ ‘แค่ใจก็เพียงพอ’ โดยจะเน้นถึงแนวคิด ‘การให้’ อันเป็นอัตลักษณ์หลักของพระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์" ปีเตอร์ แกลลี รองประธาน สายงานสื่อสารองค์กร นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย กล่าว "เราต้องการ ‘ให้’ กลับคืนไปสู่ชุมชน ด้วยการส่งเสริมทักษะไปสู่การสร้างรายได้ซึ่งจะช่วยพัฒนาความเป็นอยู่โดยรวมของชุมชนให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน"
โครงการในปีที่สองนี้ มุ่งเน้นการช่วยเหลือชุมชนในเรื่องการนำวัตถุ สิ่งของ หรือแม้กระทั่งกิ่งไม้ก้านไม้ มาผ่านการแปรสภาพ (recycle) พร้อมใส่ดีไซน์ให้มีความสวยงาม (upcycle) จนกลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถนำไปขายก่อให้เกิดรายได้ เพื่อให้บรรลุจุดประสงค์ดังกล่าว นิสสัน ได้ร่วมงานกับ จารุพัชร อาชวะสมิต อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง
นักศึกษากว่า 70 คนจากภาควิชาศิลปอุตสาหกรรม จะได้มีส่วนร่วม ตั้งแต่การดำเนินการ วิจัย แยกวัตถุ สิ่งของ ซากพืชที่ไร้คุณค่า ต่อด้วยการนำมาผ่านขั้นตอนต่างๆ จนมาจบที่การออกแบบ จนได้ชิ้นงานใหม่ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์จนสามารถขายได้
"นักศึกษา และดิฉันรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในโครงการที่มีคุณค่านี้" จารุพัชร อาชวะสมิต อาจารย์ประจำคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง กล่าว "นักศึกษาจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ที่ไม่ใช่แค่การเรียนรู้ในห้องเรียนเท่านั้น การเรียนรู้ผ่านโครงการนี้จะทำให้นักศึกษาได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมที่น่าสนใจและมีคุณค่า ซึ่งการมีส่วนร่วมในครั้งนี้จะช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้ในเรื่องวิธีการออกแบบและผลิตสินค้าที่เป็นประโยชน์ต่อชุมชนท้องถิ่น ทักษะการปฏิบัติเหล่านี้จะมีประโยชน์มากสำหรับนักศึกษาในการประกอบอาชีพในอนาคต" จารุพัชร กล่าวเสริม
ทั้งนี้ นักศึกษาจะถูกแบ่งออกเป็นทีมเพื่อร่วมกับชุมชน นำขยะมาแปรสภาพ ออกแบบผลิตภัณฑ์ให้มีดีไซน์ที่สวยงาม (upcycle) และสามารถจำหน่ายได้จริง ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดจะได้รับการคัดเลือก และนักศึกษาจะถ่ายทอดวิธีการทำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวให้กับชุมชนท้องถิ่นในจังหวัดเพชรบุรี
"นิสสัน ยังคงเดินตามคำสอน ภูมิปัญญา และความเสียสละของพระมหากษัตริย์ไทยผ่านโครงการดังกล่าว เพิ่มเติมในเรื่องการส่งเสริมทักษะให้คนในชุมชน จนสามารถนำไปปรับใช้จนเกิดรายได้ในระยะยาวอย่างยั่งยืน” แกลลี กล่าว "ผมหวังว่ากิจกรรมนี้จะช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน ไม่เพียงแค่นั้นการนำขยะกลับมาใช้ใหม่นี้ยังช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยให้สะอาดและปลอดภัยสำหรับทุกคนในอนาคต"
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 190 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.OV.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.6 ล้านคันในปี 2560
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube