นิสสัน ริเริ่มซีรีส์การให้ความรู้เกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าผ่านสื่อดิจิตอลเป็นครั้งแรก เพื่อการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้อง
มุ่งสร้างความเข้าใจ 4 ด้านของการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย ถ่ายทอดจากความชำนาญกว่าเจ็ดทศวรรษด้านการขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า
กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย (7 กุมภาพันธ์ 2562) : ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา ยอดขายรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 23 เท่า1 โดยปัจจุบันมีผู้บริโภคถึง 37 เปอร์เซ็นต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สนใจซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเป็นรถคันต่อไป และเพื่อเรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นด้านข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า วันนี้นิสสัน ได้ทำการเปิดตัว วิดีโอซีรีส์เพื่อการศึกษาเป็นครั้งแรก เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าขึ้น
“ทั่วภูมิภาค เราได้รับรู้ความชื่นชอบในรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของผู้คนอยู่เสมอ แต่หลายๆ คนอาจไม่เข้าใจว่าจริงๆ แล้วรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเหมาะสมกับวิถีชีวิต หรือ ไลฟ์สไตล์ รวมถึงพื้นฐานการใช้งานของพวกเขาอย่างไร ในฐานะที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์รายแรกที่ผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อออกจำหน่ายในตลาด กอรปกับความรู้ความชำนาญกว่า 70 ปีเกี่ยวกับเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้า เราจึงต้องการช่วยส่งเสริมความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องเหล่านี้” ยูตากะ ซานาดะ รองประธานอาวุโสของนิสสันเอเชียและโอเชียเนีย กล่าว “เพื่อให้ข้อมูลเชิงลึก นิสสันได้ทำการรวบรวมและพร้อมแบ่งปันความรู้ในวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการระบบขับเคลื่อนให้แก่ลูกค้า จากประสบการณ์ของผู้ที่ได้สัมผัสกับเทคโนโลยีนี้ด้วยตัวเอง”
โดย ชุดวีดีโอซีรีส์นี้ จะแบ่งออกเป็นสี่ส่วน ครอบคลุม การชาร์จ ระยะทาง การขับขี่ และการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้า จึงเป็นการตีโจทย์และรวบรวมคำถามที่มักจะพบได้บ่อยรวมถึงความเชื่อต่างๆเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า โดยมีทอม จาร์วิส นักสำรวจและนักวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมชาวออสเตรเลียจะเป็นผู้นำการพูดคุย พร้อมกับณยา เอียร์ลิคซ์-อาดัม ผู้ก่อตั้งธุรกิจอาหารแบบยั่งยืนภายใต้ชื่อ บรอกโคลี เรฟโวลูชั่น ในกรุงเทพฯ ที่จะมาร่วมทีมในการพูดคุยตอบคำถามเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า จากประสบการณ์และความชอบส่วนตัวของทั้งสองคน
สำหรับ วีดีโอชิ้นแรกของซีรีส์ เป็นหัวข้อเกี่ยวกับการชาร์จไฟ ซึ่งในปี พ.ศ. 2561 ผลการศึกษาของฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน ที่นิสสันให้การสนับสนุน2 แสดงให้เห็นว่าโดยเฉลี่ยแล้ว 59 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กล่าวว่าวิธีการชาร์จ (ความสามารถในการชาร์จในที่ทำงาน จุดชาร์จที่บ้าน และตัวเลือกในการชาร์จแบบรวดเร็ว) เป็นปัจจัยหลักในการเลือกซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ความสะดวกสบายในการชาร์จถือเป็นปัจจัยสำคัญลำดับที่สองในการตัดสินใจซื้อรถยนต์พลังงานไฟฟ้า รองลงมาจากเรื่องของมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งในขณะที่ความต้องการรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีเพิ่มมากขึ้น ความไม่แน่ใจเกี่ยวกับวิธีการชาร์จที่ถูกต้องถือเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับผู้สนใจรถยนต์ไฟฟ้าหลายๆ คน
เคล็ดลับของการชาร์จ
ในวีดีโอแรกเกี่ยวกับการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้า นิสสันแบ่งปันข้อมูลและเคล็ดลับว่าเจ้าของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะสามารถชาร์จรถยนต์ได้อย่างไร โดยมีตัวเลือกการชาร์จสามตัววิธีหลักๆ สำหรับนิสสัน ลีฟ ตัวอย่างเช่น การชาร์จจากไฟบ้านปกติ (standard outlet charging) การชาร์จจากอุปกรณ์ชาร์จติดผนัง หรือ wall box charging และการชาร์จแบบเร็วหรือที่เรียกว่า Quick Charge
- เช่นเดียวกับการเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จสมาร์ทโฟน 80-90 เปอร์เซ็นต์ของเจ้าของรถนิสสัน ลีฟ ส่วนใหญ่เลือกที่จะชาร์จรถยนต์ของเขาที่บ้านโดยใช้เคเบิลอเนกประสงค์ที่มาพร้อมกับรถยนต์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการชาร์จข้ามคืน
- เจ้าของลีฟ สามารถเลือกติดตั้งกล่องชาร์จหรือ wall box charging ที่บ้าน ที่ทำงาน หรือในที่ๆ อื่นๆที่เหมาะสมได้ ซึ่งจะสามารถชาร์จไฟฟ้าให้เต็มได้ภายในระยะเวลา 5-7 ชั่วโมง ซึ่งใช้เวลาน้อยกว่าการชาร์จแบบแรก
- สถานีชาร์จแบบรวดเร็วหรือ Quick Charge จะใช้เวลาชาร์จเพียงแค่ 40-60 นาทีเพื่อชาร์จให้แบตเตอรี่กลับมามีความจุที่ 80 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งส่วนใหญ่มักมีติดตั้งในพื้นที่ที่ชาร์จสะดวก เช่น ห้างสรรพสินค้า หรือที่สาธารณะต่างๆ
นอกจากนี้ เนื่อหาในวีดีโอยังอธิบายเกี่ยวกับความกังวลด้านความปลอดภัย โดยนำเสนอข้อมูลการชาร์จรถยนต์พลังงานไฟฟ้าว่าสามารถทำได้อย่างปลอดภัยแม้กระทั่งตอนฝนตก เป็นสถานการณ์ที่อาจพบบ่อยในช่วงหน้าฝนของภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย
“ซีรีส์ชุดแรกจะเปิดตัวในช่วงเวลาที่สังคมมีการพูดคุยเกี่ยวกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้าที่กำลังเติบโต และผู้กำหนดนโยบายทั่วภูมิภาคต่างเร่งนำรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามาใช้งาน” วินเซนต์ วิจเนน ผู้อำนวยการฝ่ายขายและการตลาดประจำภูมิภาคเอเชียและโอเชียเนีย กล่าว “ในขณะที่สาธารณูปโภคกำลังได้รับการพัฒนา เราตั้งเป้าหมายสร้างความกระจ่างให้แก่ผู้ซื้อเกี่ยวกับความจริงของการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้า และรวมถึงเร่งแก้ไขความเข้าใจที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการเป็นเจ้าของและการขับขี่รถยนต์ดังกล่าว เช่น นิสสัน ลีฟ และยังรวมถึงเทคโนโลยีใหม่ๆ ทุกรูปแบบ ทั้งนี้สังคมต่างมีความต้องการข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง และสิ่งสำคัญคือการแบ่งปันเคล็ดลับในรูปแบบที่ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงและเข้าใจได้ โดยมาจากความชำนาญของนิสสันในเรื่องนี้”
สำหรับผู้สนใจในเทคโนโลยีที่ถูกต้องของรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อความเข้าใจเกี่ยวกับการชาร์จ สามารถดูวีดีโอชุดแรกจากซีรีส์ได้ที่นี่
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
นิสสัน ก่อตั้งในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่ปี พ.ศ 2476 โดยมีนโยบายหลักที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับลูกค้า (Innovation that Excites) ทำให้ลูกค้าได้รับความสุขกับรถของนิสสัน ขณะเดียวกันนิสสันยังต้องการปรับปรุงคุณภาพชีวิตให้กับคนในสังคม โดยนิสสันได้ประกาศเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดค่ามลพิษให้เป็นศูนย์ และลดการสูญเสียบนท้องถนนให้เป็นศูนย์ นิสสันจึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนที่อัจฉริยะ โดยมีแผนที่จะแนะนำระบบขับขี่อัตโนมัติ ในรถยนต์รุ่นหลักในภูมิภาคต่างๆ เพื่อเพิ่มความปลอดภัยบนท้องถนนไปพร้อมๆ กับการสร้างความสุขให้กับผู้ขับขี่ สำหรับประเทศไทยนิสสันเริ่มดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2495 ปัจจุบันมีบริษัทในเครือ 5 แห่ง และฐานการผลิตรถยนต์รวม 2 แห่ง มีเครือข่ายโชว์รูมและศูนย์บริการมากกว่า 180 แห่ง โดยมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ตอบสนองลูกค้าทุกเซกเมนต์รวม 10 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์อีโค คาร์ รถยนต์อเนกประสงค์ รถยนต์พรีเมี่ยมซีดาน รถกระบะ และรถตู้
เกี่ยวกับ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ จำกัด
นิสสัน เป็นผู้ผลิตรถยนต์ระดับโลกที่จำหน่ายรถยนต์มากกว่า 60 รุ่นภายใต้แบรนด์นิสสัน อินฟินิตี้ และดัทสัน ในปีงบประมาณ 2560 บริษัทฯ มียอดขายรถยนต์มากกว่า 5.77 ล้านคันทั่วโลก สร้างรายได้มูลค่า 11.9 ล้านล้านเยน ในวันที่ 1 เมษายน 2560 บริษัทฯ เริ่มดำเนินการแผนกลยุทธ์ระยะกลาง Nissan M.O.V.E. to 2022 ซึ่งเป็นแผนธุรกิจ 6 ปีที่มีเป้าหมายในการเพิ่มรายได้ 30% เป็นมูลค่า 16.5 ล้านล้านเยน เมื่อสิ้นสุดปีงบประมาณ 2565 โดยมีกระแสเงินสดสะสมจำนวน 2.5 ล้านล้านเยน ภายใต้กลยุทธ์ดังกล่าว นิสสันมุ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในนวัตกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผ่านรถยนต์นิสสัน ลีฟ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในประวัติศาสตร์ สำนักงานใหญ่ของนิสสันที่ตั้งอยู่ที่เมืองโยโกฮามา ประเทศญี่ปุ่น แบ่งเขตปฏิบัติการออกเป็น 6 พื้นที่ ประกอบไปด้วย เอเชียและโอเชียเนีย แอฟริกา ตะวันออกกลางและอินเดีย จีน ยุโรป ละตินอเมริกา และอเมริกาเหนือ นิสสันเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ เรโนลต์ ผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศส ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 และ ได้เข้าซื้อหุ้นเป็นจำนวน 34% จากมิตซูบิชิในปี พ.ศ. 2559 ปัจจุบันเรโนลต์ นิสสัน และมิตซูบิชิ มอเตอร์สเป็นพันธมิตรธุรกิจยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดและมียอดขายรวมกันมากกว่า 10.76 ล้านคันในปี 2561
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ การบริการ และความมุ่งมั่นในการนำเสนอยานยนต์เพื่อความยั่งยืน สามารถติดตามได้ที่ nissan-global.com, Facebook, Instagram, Twitter , LinkedIn และรับชมวีดีโอล่าสุดที่ YouTube