นิสสัน ย้ำ 3 กลยุทธ์เชิงรุก ชูนวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะตอบสนองลูกค้าทุกกลุ่ม
มั่นใจ นิสสัน โน๊ต ใหม่ และ นาวาราแบล็คอิดิชัน ดาวเด่นงานมอเตอร์โชว์
กรุงเทพมหานคร (28 มีนาคม 2560) : บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด นำเสนอความล้ำหน้าทางด้านเทคโนโลยียานยนต์ผ่านนวัตกรรมที่ตื่นเต้นเร้าใจภายใต้คอนเซ็ปต์ Innovation that Excites พร้อมชูเทคโนโลยี การเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน หรือ Nissan Intelligent Mobility ที่เป็นแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของนิสสัน ด้วยการนำ รถยนต์นิสสัน โน๊ต ใหม่ คอมแพ็คแฮตช์แบคสุดล้ำ พร้อมรถกระบะพันธุ์แกร่งอย่างนิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน ที่เสริมความคมเข้มดุดัน รวมถึงรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% และรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทางเลือก e-Bio Fuel Cell ต้นแบบยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงแบบออกไซด์แข็ง (SOFC) ใหม่ล่าสุด มาจัดแสดง พร้อมข้อเสนอและกิจกรรมส่งเสริมการขายสุดพิเศษร่วมงานบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 38 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 29 มีนาคม – 9 เมษายน 2560 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็คเมืองทองธานี
นายอันตวน บาร์เตส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า วิสัยทัศน์ ของ นิสสันในระดับโลกคือ มุ่งนำเสนอรูปแบบการเคลื่อนที่ใหม่ๆ สำหรับทุกๆคน ภายใต้ “นวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะ หรือ Nissan Intelligent Mobility” ประกอบด้วย 3 ด้านหลักคือ เทคโนโลยีการขับขี่อัจฉริยะ เทคโนโลยีพลังงานขับเคลื่อนอัจฉริยะ และเทคโนโลยีการเชื่อมต่ออัจฉริยะ โดยรถยนต์นิสสันโน๊ตใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศไทยเป็นเครื่องยืนยันที่ดี ด้วยการบรรจุเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะ ลงไปในรถรุ่นใหม่นี้ อันเป็นบทพิสูจน์ว่า ลูกค้านิสสันจะสามารถเข้าถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีอัจฉริยะนี้ได้ ในทุกระดับราคา
สำหรับนิสสัน โน๊ต ใหม่ คาดว่าจะเป็นดาวเด่นที่ได้รับความสนใจในงานมอเตอร์โชว์นี้ นอกจากนี้นิสสันได้แสดงวิสัยทัศน์และความเป็นผู้นำในโลกของยานยนต์พลังงานไฟฟ้า ที่กำลังทวีบทบาทเพิ่มขึ้น ซึ่งในบูธของนิสสัน นอกจากจัดแสดง นิสสันลีฟ ยานยนต์ไฟฟ้าไร้มลพิษที่มียอดขายสูงที่สุดในโลกถึง 250,000 คันแล้ว ยังได้มีการจัดแสดงรถยนต์พลังงานไฟฟ้าทางเลือก e-Bio Fuel Cell ต้นแบบยานยนต์ไฟฟ้าพลังงานเซลล์เชื้อเพลิงแบบออกไซด์แข็ง (SOFC) ใหม่ล่าสุดของโลก และเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วย
สำหรับนวัตกรรมการเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน หรือ Nissan Intelligent Mobility ถือเป็นแนวทางในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของนิสสันในปัจจุบัน ซึ่งประเทศไทยในฐานะที่มีความสำคัญในเชิงกลยุทธ์ของนิสสัน เนื่องจากเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาค เป็นที่ตั้งของศูนย์วิจัยและพัฒนาประจำภูมิภาค จึงเป็นประเทศแรกๆในภูมิภาค ที่สามารถผสานเทคโนโลยีล้ำหน้าต่างๆ มาติดตั้งได้อย่างรวดเร็ว และตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละตลาด
นายอันตวน ยังได้เปิดเผยถึงแผนกลยุทธ์หลักของนิสสันนับจากนี้ไปว่า มุ่งเน้นที่สามกลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1) เพิ่มโฉมและรุ่นรถยนต์นิสสันสำหรับตลาดในประเทศไทยด้วยการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุด 2) เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ผู้จำหน่าย 200 แห่งทั่วประเทศ ด้วยการทำงานร่วมกันในฐานะคู่ค้า ที่มีพันธกิจและความมุ่งมั่นเดียวกันอย่างเต็มที่ ในการมอบประสบการณ์ที่มีค่าให้แก่ลูกค้าของนิสสัน และ 3) ใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบต่างๆ จากการเป็นศูนย์กลางในภูมิภาคต่างๆ เช่น ศูนย์วิจัยและพัฒนาในการพัฒนายานยนต์ ที่ตอบสนอง ตรงกับความคาดหวังต่างๆ ของลูกค้าชาวไทยให้ดียิ่งขึ้น
นิสสัน โน๊ต ใหม่ (The All-New Nissan NOTE)ตอบสนองกับวิถีชีวิตที่ทันสมัย
รถยนต์ที่จะเป็นดาวเด่นในบูธของนิสสัน คือ รถยนต์ นิสสัน โน๊ต ใหม่ คอมแพ็คแฮตช์แบค รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อต้นปี 2017 และเริ่มส่งมอบเมื่อวันที่ 17 มีนาคม โดยมีให้เลือก 2 รุ่น คือ 1.2V และ 1.2 VL และมี 6 สี ให้เลือก สำหรับ นิสสัน โน๊ต ใหม่ โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สวยทันสมัย ห้องโดยสารกว้าง ประหยัดน้ำมัน รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ได้อย่างครบถ้วน อีกทั้งยังได้รับการติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัยเหนือกว่าและเป็นครั้งแรก เพิ่มความมั่นใจให้ผู้ขับขี่ ทั้งกล้องอัจฉริยะมองภาพรอบทิศทาง Intelligent Around View Monitor (AVM) ทำงานคู่กับระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุและบุคคลที่เคลื่อนไหว Moving Object Detection (MOD) รวมถึงระบบช่วยเตือนก่อนการชนด้านหน้าอัจฉริยะ Intelligent Forward Collision Warning (FCW) ระบบช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ Intelligent Emergency Braking / Forward Emergency Braking (FEB) และระบบเตือนเมื่อรถออกนอกช่องทาง Lane Departure Warning (LDW) เป็นต้น
นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน (Nissan Navara Black Edition) ความแกร่งที่เสริมความดุดันเต็มพิกัด
นิสสัน ได้เพิ่มความตื่นเต้นเร้าใจให้บูธนิสสัน ในงานมอเตอร์โชว์ ซึ่งนิสสันได้เปิดตัว นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน กระบะพันธุ์แกร่งด้วยรูปลักษณ์ใหม่ที่สะท้อนความแกร่ง เข้ม ดุดัน สะท้อนความเป็นลูกผู้ชายเต็มตัว เสริมความโดดเด่นยิ่งขึ้นให้กับรูปโฉมภายนอกด้วยชุดแต่งพิเศษสีคมเข้มดุดันรอบคัน จากกระจังหน้า ผ่านฝากระโปรงหน้า หลังคา สู่กันชนหลัง พร้อมเสริมบุคลิกเฉพาะตัวด้วยลวดลายกราฟิตี้ดีไซน์สีดำด้านข้าง แกร่งเข้มกับล้ออัลลอยด์สีดำขนาดใหญ่ 18 นิ้ว แต่งซุ้มล้อสีดำขนาดใหญ่
ภายใต้รูปลักษณ์คมเข้มดุจลูกผู้ชายพันธุ์แกร่ง นิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน พร้อมตอบสนองให้เจ้าของลุยไปทุกที่ ด้วยช่วงล่างที่ใช้แชสซีส์เหล็กกล้าชิ้นเดียวตลอดคัน อันเป็นจุดเด่นของรถปิคอัพนิสสัน ที่ผู้ใช้ทั่วโลกต่างยอมรับในความแข็งแกร่ง ทนทาน พร้อมฟังก์ชั่นควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ให้เป็นออพชั่นมาตรฐานของนิสสัน นาวารา แบล็ค อิดิชัน ทุกรุ่น เพื่อมอบความแกร่งที่เหนือกว่าโดยไม่ทิ้งความสะดวกสบายและปลอดภัย ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 786,000 บาท
เทคโนโลยีพลังงานขับเคลื่อนอัจฉริยะ กับความเป็นผู้นำระดับโลกในยานยนต์พลังงานไฟฟ้า
หนึ่ง ไฮไลต์เด่นของบูธ นิสสัน ในปีนี้คือ โซน นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลลิตี ที่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของนิสสันอย่างเต็มที่ ในฐานะผู้นำรถยนต์พลังงานไฟฟ้าโลก โดยนอกจากนำรถยนต์นิสสัน ลีฟ รถยนต์พลังงานงานไฟฟ้าที่ขายดีที่สุดในโลก ด้วยยอดจำหน่ายกว่า 250,000 คันทั่วโลก มาแสดง นิสสันยังประสบความสำเร็จในการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าสู่การใช้งานจริงในหลายรูปแบบ อาทิ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากเครื่องยนต์สันดาปภายในอย่าง อี-เพาเวอร์ (e-POWER) รวมถึง รถยนต์พลังงานไฟฟ้าจากเซลล์เชื้อเพลิงแบบออกไซด์แข็ง ที่เรียกว่า e-Bio Fuel cell ซึ่งในงานได้นำ ยานยนต์พลังงานไฟฟ้าต้นแบบ มาจัดแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ที่จะมาคอยตอบข้อสงสัยจากผู้ที่สนใจอีกด้วย
นิสสันเป็นบริษัทรถยนต์แรกของโลก ที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนา รถยนต์ต้นแบบพลังงานไฟฟ้าจากเซลล์เชื้อเพลิงแบบออกไซด์แข็ง (SOFC) ที่มีจุดเด่นคือ มีต้นทุนและค่าใช้จ่ายใกล้เคียงกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แบตเตอรี แต่สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและง่ายกว่า เพราะเป็นการนำเอธานอลที่ได้จากผลผลิตทางการเกษตร มาผสมกับน้ำเพื่อใช้เป็นตัวตั้งต้นในปฎิกริยาเคมี ที่เกิดขึ้นในแผงเซลล์เชื้อเพลิงแบบออกไซด์แข็งเพื่อผลิตเป็นกระแสไฟฟ้าส่งเข้าสู่แบตเตอรีขนาด 24 กิโลวัตต์ชั่วโมง (KWH) โดยเชื้อเพลิงรองรับการเดินทางได้ระยะทางมากกว่า 600 กิโลเมตร
รถยนต์รุ่นยอดนิยมครบทุกเซกเมนต์ พร้อมข้อเสนอและกิจกรรมส่งเสริมการขายสุดพิเศษ
นิสสัน ยกทัพรถยนต์ยอดนิยม มาให้ผู้ชมงาน สัมผัสอย่างใกล้ชิด ครบทุกเซกเมนต์ รวม 8 รุ่น ทั้งเอ็กซ์เทรล รุ่นเครื่องยนต์ขนาด 2.0 และ 2.5 รวมถึงรุ่นเครื่องยนต์ไฮบริด ขณะที่กลุ่มรถยนต์ซีดานก็นำ นิสสัน ซิลฟี ซึ่งมีทั้งรุ่นธรรมดา และรุ่นที่ให้ความแรงเร้าใจ อย่างนิสสัน ซิลฟี ดีไอจี เทอร์โบ และนิสสัน เทียนา รถยนต์นั่งที่ให้ความหรูหรา สะดวกสบายมาพร้อมกับเทคโนโลยีเหนือระดับ ส่วนในกลุ่มอีโค-คาร์ได้นำ คู่ขวัญสองรุ่นยอดนิยมอย่าง นิสสัน มาร์ช และนิสสัน อัลเมรา มาเติมความคึกคักให้ลูกค้าได้สัมผัสอย่างเต็มที่ พร้อมแคมเปญส่งเสริมการตลาดหลากหลาย
สำหรับโปรโมชันส่งเสริมการขายสุดเร้าใจสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์รุ่นยอดนิยมต่างๆ ด้วยข้อเสนอสุดพิเศษ ไม่ว่าจะเป็น ดาวน์ต่ำ พร้อมดอกเบี้ยอัตราพิเศษ และฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง NPP อาทิเช่นดอกเบี้ย 1.69%* สำหรับ นิสสัน โน๊ต หรือ ดาวน์ต่ำเริ่มต้นเพียง 19,999 บาท* สำหรับ นิสสัน อัลเมรา รวมถึง นิสสัน นาวารา ราคาพิเศษเริ่มต้นที่ 499,000 บาท ดาวน์ต่ำเริ่มต้นเพียง 9,999 บาท ทุกรุ่นรับฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง NPP* นอกจากนี้สำหรับผู้สนใจทดลองขับรถยนต์ในงานรับทันทีเสื้อนิสสัน ขณะที่ลูกค้าจองรถยนต์ในงานรับทันที กระเป๋าสะพายหลังนิสโมดีไชน์เท่อีกด้วย
สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยีรวมไปถึงยนตรกรรมที่พร้อมสรรพด้วยเทคโนโลยีการเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน รวมถึงแคมเปญพิเศษ สามารถเข้าชมหรือสอบถามกับทีมงานขาย และทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญผลิตภัณฑ์ที่บูธนิสสัน หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โชว์รูมและศูนย์บริการนิสสันที่มีอยู่ประมาณ 200 แห่ง ครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ หรือติดต่อ Call Center หมายเลข 02 401 9600 หรือที่ www.nissan.co.th
‘*ข้อเสนอเป็นไปตามเงื่อนไขที่บริษัทกำหนด
# # #
ข้อมูลเพิ่มเติม
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด
โทร. 02-339-3400 ต่อ 4112-4114
โทรสาร 02-253-1022 www.nissan.co.th