กรุงเทพ, ประเทศไทย (28 พฤศจิกายน 2562) – นิสสัน ในประเทศไทย เปิดตัว จีที-อาร์ รุ่นลิมิเต็ดเอดิชันฉลองครบรอบ 50 ปี รถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตสมรรถนะสูง ระดับตำนานของนิสสัน ในงานมหกรรมยานยนต์  ครั้งที่ 36 หรือ The 36th Thailand International Motor Expo 2019

จีที-อาร์ รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี จำหน่ายในประเทศไทยด้วยราคา 11.3 ล้านบาท พร้อมการรับประกัน 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตรและการบริการแบบเอ็กซ์คลูซีฟโดยสยาม นิสสัน ทีเคเอฟ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นศูนย์บริการรถยนต์สมรรถนะสูงของนิสสัน หรือ นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ เซ็นเตอร์ (Nissan High Performance Center) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างดีที่สุด

“เราสามารถนำ จีที-อาร์ รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี หนึ่งในรถยนต์ซูเปอร์สปอร์ตที่เป็นไอคอนอันโดดเด่นที่สุดของนิสสัน มาสู่ประเทศไทย ด้วยราคาที่น่าประทับใจ ตามที่พวกเราเคยตั้งใจไว้” ราเมช นาราสิมัน ประธาน นิสสัน มอเตอร์ ประเทศไทย (Ramesh Narasimhan, president of Nissan Motor Thailand) กล่าว "เรายังคงมุ่งเน้นที่จะตอบสนองต่อลูกค้าชาวไทย อันถือเป็นหัวใจสำคัญในทุกๆ อย่างที่เราทำ ซึ่งรวมถึงการนำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่เช่นนี้จากผลิตภัณฑ์ระดับโลกสู่ตลาดในประเทศไทย”

 

การเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีที่พิเศษสุด

จีที-อาร์ รุ่นพิเศษนี้ จะมาในรูปแบบของการผสมผสาน สีภายนอกแบบทูโทนที่สืบทอดกันมาถึงสามยุค สื่อถึงความพิเศษของจีที-อาร์ จากการแข่ง เจแปน กรังด์ ปรีซ์ (Japan GP series) ด้วยโทนสีฟ้าที่เรียกว่า Bayside Blue กลับมาอีกครั้งพร้อมกับลายทางสีขาว ผ่านกระบวนการทำสีถึง 4 ชั้น ด้วยการอบความร้อนถึง 2 ครั้ง ช่วยให้สีฟ้าโดดเด่นอย่างมีชีวิตชีวา พร้อมประกายสะดุดตาและให้เงาลึกมีมิติ ขณะที่สีฟ้าบนซี่ล้อจะมอบสัมผัสที่พรีเมียม แสดงการเฉลิมฉลองความสำเร็จครั้งสำคัญของจีที-อาร์ นอกจากนี้ยังมีสีภายนอกอีกสองสี ได้แก่ สีขาวมุก (Storm White) พร้อมแถบสีแดง และ อัลติเมท ซิลเวอร์ (Ultimate Silver) พร้อมแถบสีขาว ทั้งหมดมาพร้อมสัญลักษณ์ครบรอบ 50 ปี

ภายใน จีที-อาร์ รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปีนี้ คือการตกแต่งภายในสีเทาพิเศษที่ให้ความรู้สึกหรูหราภายในห้องโดยสาร ซึ่งชวนให้นึกถึงบรรยากาศของท้องฟ้ายามค่ำคืนหลังจากเวลาพลบค่ำ รวมถึงพวงมาลัยที่เป็นเอกลักษณ์และการตกแต่งหัวเกียร์ ที่เบาะนั่ง พิมพ์ลายนูนที่ออกแบบพิเศษ ชิ้นส่วนที่หุ้มผนังด้านบนของรถใช้วัสดุแบบอัลคันทาร่า (Alcantara®) มีการตัดเย็บที่เป็นเอกลักษณ์ ที่บังแดดหุ้มด้วยวัสดุอัลคันทาร่าและอีกมากมาย

 

สมรรถนะจากจิตวิญญาณที่เกิดมาเพื่อการแข่งขันอย่างแท้จริง

“เรายังคงรักษาแนวคิดของจีที-อาร์ รุ่นปี 2020 มุ่งเน้นไปที่การขับขี่ด้วยความเพลิดเพลิน หรือ pursuing the ultimate driving pleasure เมื่อลูกค้าสัมผัสพวงมาลัย พวกเขาจะรู้ทันทีว่า ไม่มีรถคันใดในโลกที่ให้ความพึงพอใจกับผู้ขับขี่ได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจเท่านี้" ฮิโรชิ ทามูระ ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์จีที-อาร์ของนิสสัน (Hiroshi Tamura, chief product specialist for the GT-R) กล่าว

ขณะที่ผู้ที่ชื่นชอบหลายคนเชื่อว่า ความประณีตและสมรรถนะของจีที-อาร์ ที่ให้พละกำลังสูงสุด 555 พีเอส ให้ แรงบิดสูงสุดที่ 632 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์แบบ วี6 24 วาล์ว ขนาด 3.8 ลิตร ทวินเทอร์โบชาร์จ ประกอบด้วยมือ ยังมาจาก ‘ทาคูมิ’ หรือ ช่างเทคนิคระดับสูงสุดและทีมวิศวกรของจีที-อาร์ อันมีส่วนสำคัญ

จีที-อาร์ ใช้ระบบเกียร์แบบดูอัลคลัตช์ 6 สปีด ที่ได้รับการพัฒนาพร้อมโหมด ‘R’ ที่ได้รับการปรับแต่งให้เหมาะกับการขับขี่ทั้งบนถนนและในสนามแข่ง ช่วยให้การเปลี่ยนเกียร์ลงมีความดุดันมากขึ้นสำหรับการเข้าโค้งได้อย่างรวดเร็วกว่าเดิม โดยการเปลี่ยนเกียร์เกิดขึ้นขณะเบรกเอบีเอสทำงาน จึงลดอาการอันเดอร์สเตียร์ (understeer) และให้การควบคุมที่ง่ายยิ่งขึ้น ระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์แบบแปรผันถูกตั้งโปรแกรมให้เปลี่ยนแผนการขับขี่เพื่อให้เหมาะกับสไตล์การขับขี่ของเจ้าของรถ ทำให้สามารถขับขี่ได้ตามกฎหมายบนถนนสาธารณะหรือขับขี่ด้วยความดุดันบนสนามแข่งโดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนโหมดด้วยตนเอง

ท่อไอเสียอันเป็นเอกลักษณ์ของจีที-อาร์ ใช้เป็นไทเทเนียมแบบใหม่ เคลือบด้วยไทเทเนียมพร้อมปลายท่อสีฟ้าขัดเงา

ระบบช่วงล่างแบบควบคุมด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้รับการพัฒนาเพื่อให้การเข้าโค้งที่มีเสถียรภาพและการขับขี่ที่ราบรื่นยิ่งขึ้น ระบบบังคับเลี้ยวนั้นเป็นแบบเส้นตรงและมีความแม่นยำมากขึ้นกว่าเดิม ที่ให้การแก้ไขน้อยที่สุดที่ความเร็วสูงสุดถึง 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง (186 ไมล์ต่อชั่วโมง) หม้อลมเบรกใหม่เพิ่มการตอบสนองการเบรกเริ่มต้นด้วยการเหยียบคันเร่งที่สั้นลง ส่งผลให้ความสามารถในการหยุดรถมีเพิ่มขึ้น

 

ห้องโดยสารที่คู่ควรกับจีที-อาร์

ห้องโดยสารของจีที-อาร์ เป็นการผสมผสานอย่างลงตัวของความหรูหราและความสปอร์ต บริเวณตำแหน่งคนขับที่สะดุดตา ที่นั่งที่สะดวกสบาย ทั้งผู้โดยสารด้านหน้าและด้านหลัง แผงควบคุมถูกออกแบบมาเพื่อถ่ายทอด ‘การลื่นไหลในแนวนอน’ หรือ horizontal flow ให้ความรู้สึกมั่นคงสูงสำหรับผู้โดยสารที่นั่งด้านหน้า ที่นั่งถูกหุ้มด้วยหนังแบบ Nappa ที่คัดสรรมาชิ้นเดียวและไร้รอยต่อ ตัดเย็บอย่างประณีตด้วยความแม่นยำด้วยสไตล์ผู้ชำนาญการขั้นสูง หรือ ทาคูมิ (Takumi) แผงควบคุมกลางที่มาพร้อมการควบคุมเครื่องเสียง หน้าจอสัมผัส 8 นิ้ว ไอคอนขนาดใหญ่บนหน้าจอแสดงผล ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการขับขี่โดยไม่รบกวนสมาธิ

แป้นเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ติดตั้งบนพวงมาลัยสปอร์ต ให้ผู้ขับขี่สามารถเปลี่ยนเกียร์ในระหว่างเลี้ยวโดยไม่ต้องละมือจากพวงมาลัย

นิสสัน จีที-อาร์ รุ่นปี 2020 ทั้งหมดมาพร้อมกับระบบเครื่องเสียงและการสื่อสารในตัว ให้เจ้าของรถล็อคหรือปลดล็อกประตูได้จากระยะไกล เปิดใช้งานการเตือนต่างๆ เรียกใช้บริการฉุกเฉินหรือติดตามที่อยู่ของรถผ่านแอพพลิเคชันในสมาร์ทโฟน ระบบเสียงแบบพรีเมียมของ BOSE® มาพร้อมกับลำโพงประสิทธิภาพสูง 11 ตัวและ Active Sound Management เพื่อให้ประสบการณ์การขับขี่สนุกมากยิ่งขึ้น

ลูกค้าที่สนใจ จีที-อาร์ จะได้รับความอุ่นใจจากมาตรฐานการบริการหลังการขายแบบเอ็กซ์คลูซีฟของนิสสัน โดยสยาม นิสสัน ทีเคเอฟ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งเป็นศูนย์บริการรถสมรรถนะสูงของนิสสัน หรือ นิสสัน ไฮเพอร์ฟอร์มแมนซ์ เซ็นเตอร์ (Nissan High Performance Center) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย เพื่อให้บริการลูกค้าและดูแลยนตรกรรมที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างดีที่สุด

มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 พฤศจิกายน ถึง 10 ธันวาคม 2562 ที่ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมบูธนิสสัน A12 หรือติดต่อสอบถามศูนย์บริการคอลเซ็นเตอร์ของนิสสัน 02 401 9600 หรือเว็บไซต์ Nissan Motor Thailand

นิสสัน จัดแสดงรถยนต์รุ่นยอดนิยมในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 36

นอกจากการเปิดตัวจีที-อาร์ รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี แล้ว นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ยังพร้อมจำหน่ายภายในงานมหกรรมยานยนต์นี้ และจะเริ่มส่งมอบรถ ในเดือนธันวาคม 2562 เป็นต้นไป รถยนต์แบบซีดานอัจฉริยะ หรือ Intelligent Urban Sedan นี้ ได้รับการออกแบบให้มิติภายนอกปราดเปรียวขึ้น กว้าง และยาวขึ้น ภายใต้ปรัชญาในการสร้างสรรค์รถยนต์ของนิสสัน แบบ “รูปทรงเรขาคณิตที่สื่อถึงอารมณ์ หรือ Emotional Geometry” นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ มีองค์ประกอบที่โดดเด่น และเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ เช่น กระจังหน้าแบบ V-Motion ไฟหน้าและไฟท้ายทรงบูมเมอแรง แนวเสาหลังคาหลังที่ถูกยกขึ้น (kick-up C-pillars) และ หลังคาแบบลอยตัว (floating roof)

เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร เทอร์โบ ของ นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ ให้กำลังมากขึ้นพร้อมอัตราสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีขึ้น มีพละกำลังมากขึ้นและน้ำหนักที่ลดลง ให้อัตราเร่งความเร็วสูงจากแรงบิดแบบต่อเนื่อง (Flat Torque) ทำให้ สมรรถนะของอัลเมร่า ใหม่ โดดเด่นในกลุ่มรถยนต์แบบซิตี้คาร์

“นิสสัน อัลเมร่า ใหม่ สร้างความประทับใจแก่ผู้ขับขี่ตั้งแต่ครั้งแรก เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อความปลอดภัยตอบสนองความต้องการของลูกค้านิสสัน โดยเฉพาะครอบครัวขนาดเล็ก และกลุ่มมิลเลนเนียล” ราเมช กล่าวเสริม

นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงรถยนต์ต้นแบบ นิสสัน นาวารา เอ็น-เทรค วอร์ริเออร์ (Navara Navara N-TREK Warrior) ที่มาพร้อมกับคุณสมบัติที่หลากหลาย (รวมถึงชิ้นส่วนและอุปกรณ์เสริม) ซึ่งปรับปรุงทั้งการใช้งานและสมรรถนะ มาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ แผงกันชนเหล็ก กันกระแทกบริเวณใต้เครื่องยนต์ แถบไฟ LED ครอบไฟตัดหมอกสีส้มเข้มที่มาพร้อมกับ 'bark buster' ล้ออัลลอยสีดำที่เป็นเอกลักษณ์ขนาด 17 นิ้ว ยางคูเปอร์ (Cooper) ขนาด 32.2 น